ดีลยังไงกับการ ‘ทำงานทางไกล’ เมื่อจิตใจว้าวุ่นและร่างกายอ่อนล้า

ดีลยังไงกับการ ‘ทำงานทางไกล’ เมื่อจิตใจว้าวุ่นและร่างกายอ่อนล้า

หลังจากการทำงานจากบ้านมาเป็นเวลาเกือบปี หรือสำหรับหลาย ๆ คนอาจจะเกือบ 2 ปีแล้ว ในที่สุด ‘Remote Working’ หรือ ‘การทำงานทางไกล’ ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของเรา ๆ อย่างแยกไม่ออก

เช่นเดียวกับความอ่อนล้าของร่างกายและความเหนื่อยอ่อนของจิตใจ เมื่อเราเริ่มแยกช่วงเวลาของ ‘ชีวิตส่วนตัว’ กับ ‘ชีวิตการทำงาน’ ออกจากกันไม่ได้ กลายเป็นว่าจากการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน รวม 5 วันต่อสัปดาห์ ตอนนี้เหมือนทำงาน 24 ชั่วโมงต่อวัน รวม 7 วันต่อสัปดาห์ไปเลย (ไม่เว้นแม้แต่ตอนนอนหลับที่แวะเอางานไปฝันด้วย)

เพราะยุคโควิด-19 จะไม่จบลงง่าย ๆ ภายในเดือนสองเดือนนี้ และเรายังคงต้องเป็น Remote Worker ไปอีกสักพักใหญ่แน่ ๆ เราเลยอยากจะชวนทุกคนมาดู 5 วิธีอยู่ร่วมกับ Remote Working ดีลกับการทำงานทางไกลยังไงให้งาน แถมสุขภาพจิตดี สุขภาพกายยืนหนึ่ง และมีความสุขในชีวิตการทำงานและส่วนตัวด้วย

1. สร้างตารางทำงานขึ้นมาและทำตามมันให้ได้!

จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ถ้าทำงานในออฟฟิศ เราทุกคนก็ต้องทำอยู่แล้วอย่างการ ‘วางตารางการทำงาน’ แต่เพราะการทำงานทางไกลจาก ‘บ้าน’ กลายเป็นดาบสองคม ที่ทั้งทำให้เรามีตารางเวลาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น แต่คมของความยืดหยุ่นนั้นก็อาจจะย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ในบางที ถ้าขาด ‘แผน’ ที่ดีพอ

ทำให้ ‘การวางกำหนดการ’ ในการทำงานแต่ละอย่างกลับมามีความสำคัญมากขึ้นในการทำงานทางไกล

ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการกลับมา ‘วางกิจวัตรประจำวัน’ ให้แน่นอนก่อน ฟังแล้วอาจจะดูเหมือนการเสนอให้ทำลายส่วนที่ดีที่สุดของ ‘การทำงานจากบ้าน’ แต่ในอีกมุมหนึ่ง การมี ‘กิจวัตร’ ในวันทำงานที่แน่นอน จะช่วยให้เราแยกการทำงานออกจากชีวิตส่วนตัวได้ง่ายขึ้น และทำให้เราจดจ่อกับการทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

2. จัดลำดับความสำคัญ อะไรมาก่อนหลัง

จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ถ้าทำงานในออฟฟิศ เราทุกคนก็ต้องทำอยู่แล้วอย่างการ ‘วางตารางการทำงาน’ แต่เพราะการทำงานทางไกลจาก ‘บ้าน’ กลายเป็นดาบสองคม ที่ทั้งทำให้เรามีตารางเวลาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น แต่คมของความยืดหยุ่นนั้นก็อาจจะย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ในบางที ถ้าขาด ‘แผน’ ที่ดีพอ

ทำให้ ‘การวางกำหนดการ’ ในการทำงานแต่ละอย่างกลับมามีความสำคัญมากขึ้นในการทำงานทางไกล

ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการกลับมา ‘วางกิจวัตรประจำวัน’ ให้แน่นอนก่อน ฟังแล้วอาจจะดูเหมือนการเสนอให้ทำลายส่วนที่ดีที่สุดของ ‘การทำงานจากบ้าน’ แต่ในอีกมุมหนึ่ง การมี ‘กิจวัตร’ ในวันทำงานที่แน่นอน จะช่วยให้เราแยกการทำงานออกจากชีวิตส่วนตัวได้ง่ายขึ้น และทำให้เราจดจ่อกับการทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

3. เลือกเครื่องมืออุปกรณ์ที่เหมาะสม

สิ่งนี้อาจจะไม่ได้รับความสำคัญเท่าไรจากหลายคน แต่จริง ๆ แล้ว ‘เครื่องมือ’ มีผลกับการทำงานทางไกลมาก ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ กล้อง ไมค์ หรือไปถึงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ในการทำงาน

ดังนั้น จัดการดูแลเลือกหามาให้ดีแต่แรกจะดีกว่า ปล่อยให้เกิดปัญหาระหว่างวันแล้วรบกวนการทำงานและทำลายตารางงานไปตลอดวัน (แต่ถ้าใครมีออฟฟิศดี ๆ ช่วยจัดหามาให้หรือสนับสนุนงบประมาณตรงนี้ก็เจ๋งสุด ๆ ไปเลย)

ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่า คนยุคนี้ให้ความสำคัญกับการจัด ‘บ้าน’ หรือ ‘ห้อง’ มากขึ้นมาก เพราะบ้านหรือห้องที่ดีย่อมส่งผลต่อความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานและการพักผ่อนที่ดีด้วย

4. กำหนดขอบเขตในการทำงาน

ทุกอย่างล้วนมี ‘เส้น’ บอกตำแหน่งที่ดีที่สุดที่ไม่ควรจะล่วงล้ำ ‘ชีวิตส่วนตัว’ ก็เช่นกัน

ที่หลาย ๆ คนหมดไฟในยุคทำงานจากที่บ้าน ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่งานก้าวล้ำเข้ามาในชีวิตส่วนตัวอย่างไม่มีขอบเขต เราจึงควรขีดเส้นให้ชัดเจนว่า ตรงไหนเป็นส่วนของงาน ตรงไหนเป็นส่วนชีวิตส่วนตัว

หนึ่งในวิธีที่แนะนำมาก ๆ คือ อย่านำงานไปทำในพื้นที่พักผ่อน แม้ว่าจะอยู่บ้านแล้วอยากเอนจอยกับการทำงานบนโซฟาหรือว่าบนเตียง ก็ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะนอกจากจะไม่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ อาจทำให้ปวดหลังปวดขา แล้วมันยังทำให้พื้นที่การทำงานพร่าเบลอไปด้วย การจัด ‘มุมทำงาน’ เล็ก ๆ ในบ้านที่แยกออกจากมุมอื่นจะดีที่สุด

อีกเส้นคือ ‘เส้นเวลา’ เมื่อหมดเวลาทำงานแล้ว ควรปิดอุปกรณ์การทำงานและอุปกรณ์การสื่อสาร หรือปรับให้เข้าสู่โหมดพักผ่อน ตั้งสเตตัสแจ้งทีมให้เรียบร้อย แล้วนำตัวเองเข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะเส้นที่พร่าเบลอไม่ได้แค่ทำให้ผ่อนคลายยากขึ้น แต่ทำให้งานเสร็จยากขึ้นด้วย

5. ฝึกดูแลตัวเองบ้าง

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำงานทางไกลที่จะรักษา ‘ตัวคุณ’ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปนาน ๆ คือการดูแลตัวเอง หลายคนพอทำงานทางไกลแล้วป่วยยังไม่ยอมลาป่วยเลยซะแบบนั้น จึงควรหันมาฝึกดูแลตัวเองบ้าง อาจจะเริ่มจากการออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ แอบไปงีบหลับสั้น ๆ บ้างระหว่างวัน หรือว่าถ้าวันไหนเบื่อมาก ๆ การออกไปทำงานข้างนอกบ้าน จากคาเฟ่หรือที่ที่ชอบก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้

การฝึกดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการตื่นนอน กินข้าว และเลิกงานตรงเวลาแล้ว การออกไปยืดเส้นยืดสาย แวะอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ชอบสั้น ๆ 20 นาทีก็ช่วยให้เรามี ‘สติ’ ในการทำงานมากขึ้นแล้ว

สำหรับคนที่อยู่ใน ‘คอนโด’ ที่มีแนวคิดเอื้อต่อไลฟ์สไตล์แล้วล่ะก็ยิ่งง่ายและสะดวกกว่าคนอื่น ๆ คุณอาจจะเลือกออกไปเปลี่ยนบรรยากาศ ทำงานจากส่วนกลางอย่าง co-working space หรือว่าในสวนที่มีต้นไม้ร่มรื่น หรืออาจเริ่มต้นเพิ่มกิจวัตรใหม่ ๆ อย่างการออกไปเดินรับลมที่สระว่ายน้ำส่วนกลาง และเข้าฟิตเนสสั้น ๆ วันละ 30 นาที เหมือนที่ทุกคอนโดของ AssetWise ทั้ง Kave, Atmoz และ Modiz มีให้กับลูกบ้านค่ะ

ค้นหา

โครงการที่คุณอาจสนใจ

สมัครรับข่าวสารและสิทธิพิเศษ

กรุณาระบุอีเมลของคุณ

    1/3
    เพิ่ม Kave AVA ในรายการเปรียบเทียบ แล้ว
    เปรียบเทียบ
    1/3
    นำ Kave AVA ออกจากรายการ เปรียบเทียบแล้ว
    เปรียบเทียบได้สูงสุด 2 โครงการ

    กรุณาลบโครงการที่เลือกไว้ 1 โครงการ เพื่อเพิ่มโครงการใหม่